ไม่มีลูกค้าคนไหนที่ชอบกับการถูกตื๊อให้ต้องซื้อสินค้า เพราะการกระทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการยัดเยียดการขายให้กับพวกเขา โดยไม่ยอมให้พวกเขาชั่งใจหรือมีโอกาสในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ คุณทราบหรือไม่ว่าร้านค้าร้านใดที่ตามตื๊อลูกค้าตลอดเวลา สุดท้ายสิ่งที่คุณทำคือการผลักไสลูกค้าออกไปจากร้านค้าของคุณนั่นเอง มันจะดีกว่าไหมถ้าคุณจะมีเทคนิคขายดีโดยไม่ต้องใช้วิธีการตามตื๊อลูกค้าและให้โอกาสลูกค้าได้ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าด้วยตัวของพวกเขาเอง ซึ่งหากคุณสามารถทำได้ดังนี้นอกจากจะช่วยให้คุณได้ยอดขายเพิ่มก็ยังส่งผลดีต่อร้านค้าในระยะยาว ขายดีขึ้นทันที ด้วยเทคนิคขายดีโดยไม่ต้องตื๊อลูกค้ามีอะไรบ้างบทความนี้มีคำตอบ
คุณไม่สามารถขายสินค้าที่มีให้กับคนได้ทั้งโลก ดังนั้นไม่ต้องพยายามที่จะนำเสนอสินค้าของคุณกับคนที่ไม่เห็นประโยชน์ที่จะซื้อมัน แต่ให้พยายามโฟกัสไปยังคนที่ต้องการมันจริง ๆ หาคนที่ต้องการสินค้าของคุณให้พบซึ่งถ้าคุณหาได้ก็มีโอกาสมากที่จะประสบความสำเร็จในการขายสินค้าชิ้นนั้นอย่างแน่นอน
หากร้านค้าของคุณมีคู่แข่งที่ขายสินค้าที่ใกล้เคียงกันกับของคุณมาก อย่าพยายามเอาความเหมือนไปสู้เพื่อแย่งชิงลูกค้า แต่ให้ลองมองหาบางสิ่งในมุมที่แตกต่างดูเสียก่อน บางสิ่งที่ว่านี้แหละคือจุดขายที่คุณจะเอาชนะคู่แข่งของคุณได้ และแน่นอนว่าย่อมควรค่าแก่การที่ลูกค้าจะรับฟังซึ่งหากว่าความแตกต่างจากสิ่งที่เคยมีนั้นมันมีประโยชน์ต่อลูกค้าจริง ๆ ท้ายที่สุดลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณเอง
ลูกค้ามีเหตุผลในการที่จะซื้อสินค้าร้อยแปดพันประการก็จริง แต่ความยากของการนำเสนอการขายก็คือคุณจะหาเหตุผลที่ตรงใจและไปกระตุ้นอารมณ์ความอยากซื้อของพวกเขาได้ไหม สิ่งนี่คือศิลปะของการขาย คุณไม่จำเป็นต้องตื๊อให้ลูกค้าต้องซื้อสินค้าของคุณเลย เพียงแค่หาจุดเปราะบางของพวกเขาให้เจอและขยี้จุดเปราะบางที่ว่านี้ด้วยเหตุผลที่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ และท้ายที่สุดพวกเขาก็จะตัดสินใจซื้อเพราะเหตุผลของคุณไปกระตุ้นอารมณ์ของพวกเขา
ไม่มีสินค้าชนิดไหนที่จะดีที่สุดโดยปราศจากข้อเสียหรือข้อบกพร่อง แต่สิ่งนั้นก็แทบไม่สำคัญเลยหากว่าสินค้าชิ้นนั้นมันเหมาะสมกับลูกค้าของคุณแล้ว เพราะถ้าลูกค้ารู้สึกว่ามันใช่ไม่ว่ามันอาจจะมีข้อเสียบ้างสิ่งนั้นก็ถือว่าใช่สำหรับพวกเขาอยู่ดี คุณอาจจะพูดถึงจุดบกพร่องให้ลูกค้าทราบได้บ้างแต่ก็ควรจะเน้นถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมากกว่าที่จะให้พวกเขาโฟกัสไปเพียงแค่จุดบกพร่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรเลยแล้วทำให้พวกเขาต้องเสียโอกาสดี ๆ ไป
เมื่อคุณตั้งต้นการขายด้วยความพยายามจะปิดการขายให้ได้ โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จก็จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ นั่นก็เพราะความคิดของคุณจะจดจ่ออยู่ที่การขายของให้ได้เท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นแนวความคิดที่ไม่ถูกต้องเท่าใดนัก แต่หากคุณเข้าใจว่าจริง ๆแล้วการขายของก็คือการโน้มน้าวให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้ คุณก็ต้องเริ่มจากการปรับแนวความคิดของคุณเสียใหม่โดยเริ่มต้นจากการที่คุณเชื่อเสียก่อนว่าสินค้าของคุณสามารถช่วยลูกค้าได้จริง เมื่อคุณมีความเชื่อเช่นนั้นลักษณะท่าทาง น้ำเสียงและการแสดงออกของคุณจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อตามในสิ่งที่คุณบอกกล่าวกับพวกเขา และท้ายที่สุดพวกเขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณเอง
ถ้าลูกค้ายังไม่เปิดใจให้กับคุณไม่ว่าคุณจะงัดกลยุทธ์ใดออกมาใช้ก็ไม่อาจทำให้พวกเขาสนใจได้ แม้ว่าสินค้าของคุณจะเป็นประโยชน์กับพวกเขามากแค่ไหนก็ตาม และถ้าคุณยังคงมองสัญญาณนี้ไม่ออกและพยายามจะรุกหนักมากขึ้นท้ายที่สุดพวกเขาก็จะปิดใจไปตลอด ลองถอยหลังสักก้าวและให้เวลาลูกค้าได้ไตร่ตรองในเหตุผลที่คุณนำเสนอแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ตัดสินใจซื้อในตอนนี้แต่ในอนาคตก็มีโอกาสที่พวกเขาจะกลับมาซื้อสินค้าของคุณดีกว่าที่คุณรุกไล่จนพวกเขาเกิดความรำคาญและปฏิเสธคุณไปตลอดกาล
🕑จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00
🕑วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-14.00
📌 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/YT8tQDNF5yR4fuSf8?g_st=il
ช่องทางการติดต่อสั่งซื้อ....👇
🌏 https://saitarnshop.com
👉 line@ : @saitarnshop (มี@นำหน้า) https://lin.ee/zA7hWTg
👉 Facebook : @saitarnshop
👉 E-mail : [email protected]
☎️ : 088-9651456
📞 : 083-4936624
🙏🏼ขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ🙏🏼