♥ วิเคราะห์ตลาด – สำรวจว่าคนในพื้นที่ต้องการอาหารประเภทไหน และมีการแข่งขันสูงหรือไม่
♥ เลือกเมนูที่ทำง่ายและต้นทุนต่ำ – เช่น อาหารกล่อง อาหารคลีน ขนม เบเกอรี่ หรืออาหารจานเดียว
♥ คำนึงถึงความสะดวกในการจัดส่ง – ควรเลือกเมนูที่ไม่เสียรูปทรงง่าย และเก็บได้นาน
ตัวอย่างเมนูยอดนิยม:
🍱 ข้าวกล่อง (ข้าวไข่ข้น, ข้าวกะเพรา, ข้าวหมูทอด)
🥗 อาหารสุขภาพ (สลัด, อาหารคลีน)
🍜 อาหารตามสั่ง (ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไทย)
🧁 เบเกอรี่ ขนมหวาน (เค้ก, คุกกี้, บราวนี่)
♥ คำนวณต้นทุนวัตถุดิบต่อจาน
♥ คำนวณต้นทุนอื่น ๆ เช่น ค่าแพ็กเกจจิ้ง ค่าแก๊ส ค่าขนส่ง
♥ ตั้งราคาที่เหมาะสม (กำไรขั้นต่ำควรอยู่ที่ 30-50%)
📌 ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนอาหารกล่อง:
เลือกสมัครเข้าระบบเดลิเวอรี เช่น
💡 เคล็ดลับ: ใช้โปรโมชั่นดึงลูกค้า เช่น
📌 เทคนิคการโพสต์โปรโมทร้านให้ได้ผล
📅 โพสต์เป็นประจำ เช่น เมนูพิเศษประจำวัน
📢 กระตุ้นให้ลูกค้าแชร์และแท็กเพื่อน
📷 ใช้ภาพ Before-After เช่น ก่อนกิน-หลังอิ่ม
📌 สรุปขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่
1️⃣ เลือกเมนู ที่เหมาะสม
2️⃣ คำนวณต้นทุน และตั้งราคาขายให้มีกำไร
3️⃣ เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์
4️⃣ สมัครแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ และเปิดช่องทางขาย
5️⃣ ทำการตลาดและโปรโมทร้าน
6️⃣ พัฒนาเมนูและเพิ่มยอดขาย
ถ้าคุณมีไอเดียอาหารที่อยากขายแล้ว ลองเริ่มจากขั้นตอนแรกได้เลย 🚀
คุณมีเมนูอะไรในใจหรือยัง? 😊