เปิดร้าน Food delivery อยู่บ้านเริ่มต้นยังไง


อยากเปิดร้านขาย Food Delivery อยู่บ้านทำยังไงดี เริ่มต้นจากอะไรดี


1. เลือกประเภทอาหารที่ขาย

♥ วิเคราะห์ตลาด – สำรวจว่าคนในพื้นที่ต้องการอาหารประเภทไหน และมีการแข่งขันสูงหรือไม่

♥ เลือกเมนูที่ทำง่ายและต้นทุนต่ำ – เช่น อาหารกล่อง อาหารคลีน ขนม เบเกอรี่ หรืออาหารจานเดียว

♥ คำนึงถึงความสะดวกในการจัดส่ง – ควรเลือกเมนูที่ไม่เสียรูปทรงง่าย และเก็บได้นาน

ตัวอย่างเมนูยอดนิยม:

🍱 ข้าวกล่อง (ข้าวไข่ข้น, ข้าวกะเพรา, ข้าวหมูทอด)

🥗 อาหารสุขภาพ (สลัด, อาหารคลีน)

🍜 อาหารตามสั่ง (ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไทย)

🧁 เบเกอรี่ ขนมหวาน (เค้ก, คุกกี้, บราวนี่)


2. คำนวณต้นทุนและตั้งราคา

♥ คำนวณต้นทุนวัตถุดิบต่อจาน

♥ คำนวณต้นทุนอื่น ๆ เช่น ค่าแพ็กเกจจิ้ง ค่าแก๊ส ค่าขนส่ง

♥ ตั้งราคาที่เหมาะสม (กำไรขั้นต่ำควรอยู่ที่ 30-50%)

📌 ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนอาหารกล่อง:

  • วัตถุดิบ (ข้าว + หมู + เครื่องปรุง) = 35 บาท
  • ค่าบรรจุภัณฑ์ = 5 บาท
  • ค่าแก๊ส/ไฟฟ้า = 3 บาท
  • ค่าแรง (ถ้ามีลูกจ้าง) = 10 บาท
  • ต้นทุนรวม = 53 บาท
  • 💰 ตั้งราคาขาย 80-100 บาท เพื่อให้ได้กำไรที่เหมาะสม

3. เตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบ

  • อุปกรณ์ครัว – เตาแก๊ส, หม้อ, กระทะ, เครื่องตัด, ตาชั่ง ฯลฯ
  • วัตถุดิบ – เน้นวัตถุดิบที่สดใหม่ และเลือกซัพพลายเออร์ที่ราคาดี
  • บรรจุภัณฑ์ – ใช้กล่องที่แข็งแรง รักษาคุณภาพอาหาร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

4. เลือกช่องทางการขายและการจัดส่ง

เลือกสมัครเข้าระบบเดลิเวอรี เช่น

  • GrabFood
  • Lineman
  • Foodpanda
  • Robinhood (ไม่มีค่าธรรมเนียมร้านค้า)
  • ✅ เปิดเพจ Facebook / IG และใช้ LINE OA เพื่อรับออเดอร์เอง
  • ✅ โปรโมทผ่านกลุ่มชุมชน หรือแอปฯ อย่าง Wongnai

💡 เคล็ดลับ: ใช้โปรโมชั่นดึงลูกค้า เช่น

  • ซื้อ 2 แถม 1
  • ลด 10% สำหรับลูกค้าใหม่
  • ส่งฟรีในระยะ 5 กม.

5. วางแผนการตลาด

  • ถ่ายรูปอาหารให้น่ากิน ใช้กล้องมือถือก็ได้ แต่ควรมีแสงดี ๆ
  • ทำโปรโมชั่น เช่น ลดราคาช่วงเปิดตัว หรือ แจกคูปองส่วนลด
  • ใช้ Facebook Ads หรือ TikTok เพื่อโปรโมทร้าน
  • ขอรีวิวจากลูกค้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

📌 เทคนิคการโพสต์โปรโมทร้านให้ได้ผล

📅 โพสต์เป็นประจำ เช่น เมนูพิเศษประจำวัน

📢 กระตุ้นให้ลูกค้าแชร์และแท็กเพื่อน

📷 ใช้ภาพ Before-After เช่น ก่อนกิน-หลังอิ่ม


6. พัฒนาธุรกิจให้เติบโต

  • ขยายเมนูให้หลากหลายขึ้น
  • จัดเซ็ตอาหารเพื่อเพิ่มยอดขาย (เช่น ซื้อข้าว + น้ำ + ของหวาน)
  • หาพาร์ทเนอร์ เช่น ร่วมมือกับร้านกาแฟหรือร้านขนม

📌 สรุปขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่

1️⃣ เลือกเมนู ที่เหมาะสม

2️⃣ คำนวณต้นทุน และตั้งราคาขายให้มีกำไร

3️⃣ เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์

4️⃣ สมัครแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ และเปิดช่องทางขาย

5️⃣ ทำการตลาดและโปรโมทร้าน

6️⃣ พัฒนาเมนูและเพิ่มยอดขาย

ถ้าคุณมีไอเดียอาหารที่อยากขายแล้ว ลองเริ่มจากขั้นตอนแรกได้เลย 🚀

คุณมีเมนูอะไรในใจหรือยัง? 😊